สวนสละของเขาจะมีผลผลิตออกจากสวนราว 36-40 ตันต่อ ปี โดยขายส่งพ่อค้า และมีผู้มาเยี่ยมสวน จะมีรายได้ร่วมประมาณ 1 ล้านบาทต่อปี
โดย..อัศวิน ภักฆวรรณล
ชีวิตของ"ถัน ดำเรือง"เกษตรกรวัย 61 ปีต้นๆชาว ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารายได้หลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตและยกฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวในปัจจุบันนี้มาจากการทำสวน"สละ"ซึ่งจะแตกต่างจากเกษตรกรรายอื่นๆส่วนใหญ่จะมีรายได้จากการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน หรือ ปลูกข้าว
ลุงถัน มีความผูกพันกับวิถีเกษตรมาตั้งแต่เล็กจนโต ทำให้เขามีประสบการณ์จากการปลูกพืชแล้วมาหลายชนิด ทั้งปลูกข้าว สะตอ ขนุน จำปาดะ มะพร้าว ไม่เว้นแม้ยางพารา แต่ทั้งหมดไม่มีพืชชนิดใดที่จะสร้างความพึงพอใจในแง่รายได้เป็นกอบเป็นกำเท่าที่ควรการทำสวนสละ
ด้วยเหตุนี้ลุงถันจึงเริ่มศึกษาข้อมูลการเกษตรเพื่อปลูกพืชแซมในสวนยาง จนมาลงตัวที่ปลูกสละ ทั้งๆที่ไม่เคยลองทำสวนสะละ แม้แต่ครั้งเดียว โดยอาศัยตำรา สอบถึงถามผู้รู้ ตลอดทั้งลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ทำให้ลุงถันเริ่มเข้าใจและมีความรู้เกี่ยวกับพืชชนิดดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเกระทั่ง ปี 2543 จึงลงทุนปรับสภาพพื้นที่ของตัวเองปลูกสละประมาณ 500 ต้นนำมาจากจ.จันทบุรี ท่ามกลางสายตาและอาการไม่เห็นด้วยของเพื่อนเกษตรกรหลายๆคนว่าลุงถันโอกาสที่จะสบผลสำเร็จยาก
อย่างไรก็ตามด้วยความตั้งใจของลุงถัน บวกความมุ่งมั่นที่เชื่อว่าพืชชนิดนี้จะสร้างเม็ดเงินให้ครอบครัวได้ ทำให้ลุงถันขยายพื้นที่ปลูกสละเพิ่มขึ้นเป็น 20 ไร่ในเวลาต่อมา ที่ ต.หนองธง โดยแบ่งเป็นแปลงย่อยๆ 4 แปลง โดยทุกแปลงมีการพัฒนาคุณภาพการจัดการถูกต้องตามหลักวิชาการ จนได้รับใบรับรองคุณภาพตามโครงการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและได้มาตรฐาน (GAP) ทุกแปลง
ลุงถัน เล่าว่า สวนสะละของเขาจะมีผลผลิตออกจากสวนราว 36-40 ตันต่อ ปี โดยขายส่งพ่อค้า และมีผู้มาเยี่ยมสวน จะมีรายได้ร่วมประมาณ 1 ล้านบาทต่อปี หักต้นทุนต่าง ๆ ออกแล้ว เหลือประมาณ 6 -7 แสนบาท
"วันนี้ไม่ได้ขายผลสละอย่างเดียว เพราะมีนักท่องเที่ยวได้สนใจมาชม ชิม และซื้อสละ ทำให้เกิดธุรกิจท่องเที่ยวสวนขึ้น เพราะนี่คือเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมสวนสละ ที่มีผลดกเต็มต้น ร่มรื่น ชิมผลสละ น้ำสละสด ๆ จากสวน และซื้อสละกลับไปฝากคนที่บ้าน จึงทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวอีกทาง ทั้งยังช่วยให้คนในชุมชน มีรายได้จาการขายอาหารว่าง ของที่ระลึก เช่น ขนมต้มใบพ้อ รูปหนังตะลุง และภาพเงาะป่าซาไก เป็นต้น"ลุงถันเล่าด้วยความภาคภูมิใจ
ปัจจุบันสวนของลุงถัน ไม่เพียงเป็นแหล่งผลิตสละที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์เรียนรู้ให้แก่เกษตรกรผู้สนใจจะปลูกสละด้วย