|
ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่
|
|
|
|
|
|
ขณะนี้มี 580 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม
ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่
|
|
|
|
|
|
|
|
เข้าระบบ
|
|
|
|
|
|
ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง
|
|
|
|
|
|
|
|
product13
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
product9
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
product10
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
product11
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
product12
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
เทคนิคตลาด4
บทบาทของการตลาดในระบบการเกษตรแบบยั้งยืน
The Role of Marketing in Sustainable Agriculture
John E. IkerdUniversity of Missouri, Columbia, Missouri, USA ถอดความภาษาไทยTranslated into Thai byAssistant Prof Dr. Anucha Puripunpinyoo WittayakornSchool of Agricultural ExtansionSukhothai Thammathirat Open UniversityParkerd , Nonthaburi,Thailand , 11120Office Phone 011 662 5044184Home Phone 011 662 578 1726Cell Phone 011 669 339 1367Email puanucha@ hotmail.com
---------------------------------------------------------------------------
การเกษตรแบบยั่งยืนได้ให้ความหมายจากนักเศรษฐศาสตร์ในหลายด้านแต่ในที่นี้ผุ้เขียนบทความนี้คือ ดร.จอห์น ไอเคิรส ได้กล่าวถึงคำจำกัดความของ (Allen) อาแลนด์ และคณะ กล่าวคือ จอห์น ได้ให้ความเห็นว่า การเกษตรแบบยั่งยืนเป็นการมองทั้งระบบของการทำการผลิตทางการเกษตรโดยทั่วไปแล้ว การเกษตรแบบยั่งยืนจะเป็นการพิจารณาถึงระบบนิเวศน์วิทยาเศรษฐศาสตร์ และการตอบสนองต่อความต้องการของสังคม
ในอดีตที่ผ่านมามุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ ได้มุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร โดยวิธีการลดการข้อปัจจัยการผลิตอันเป็นต้นทุนหลักในขบวนการผลิตเมื่อเรามองภาพรวมของการผลิตทางการเกษตร สามารถกล่าวได้ว่าเกษตรกรมักทำการผลิตสินค้าเกษตรโดยมุ่งตอบสนองความต้องการของตลาด หรือความต้องการของผู้บริโภคเป็นประการสำคัญ เกษตรกรมักจะผลิตสินค้าเกษตรโดยพื้นฐานชนิดเดียวกันและซ้ำกันหลายปีอย่างต่อเนื่อง การผลิตสินค้าขั้นพื้นฐานของเกษตรกรที่เหมือนกันจะต้องประสบปัญหาการแข่งขันทางการตลาดทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ ดร. จอห์น ไอเคิรส ได้ให้แนวความคิดเกี่ยวกับผลผลิตต่อหน่วยเมื่อเปรียบเทียบกับ 2 ระบบการผลิต นั่นคือ
1) การผลิตระบบดั่งเดิม และ
2) การผลิตระบบทางเลือก ราคาของผลผลิตทางการเกษตรที่เกษตรกรได้รับจะแตกต่างกันออกไปตามวิถีการตลาด
ระดับของตลาด และปริมาณผลผลิตทางการเกษตร ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของราคาจากผลผลิตเกษตรชนิดพิเศษ หรือต้นทุนที่สูงขึ้น เช่น การผลิตผลผลิตที่คำนึงถึงคุณภาพ เมื่อเข้าสู่ระดับตลาดทั่วไป ต้นทุนเหล่านี้อาจไม่ได้นำมาคำนวณ ดังนั้นการเพิ่มคุณค่าทางการตลาดของสินค้าเกษตร อาจมีความสำคัญมากกว่าการพยายามลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตรโดยการผลิตทางการเกษตรนั้นจะต้องคำนึงถึงระบบนิเวศน์ การจัดการฟาร์มตอบสนองต่อระบบเศรษฐกิจ และคำนึงถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม
หลายครั้งเมื่อเราพิจารณาถึงระดับการผลิตขั้นต้นของระบบการเกษตร จะพบว่าการเกษตรยังขาดระบบการตลาดแบบทางเลือก นั้นคือระบบการตลาดแบบทางเลือกเป็นหัวใจหลักสำคัญในขบวนการเกษตรแบบยั่งยืนโดยเฉพาะในภูมิภาคทางใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา “การตลาด” จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรแบบยั่งยืนโดยอาศัยแนวทางในการศึกษาและวิจัยเป็นแนวทางสำคัญ ซึ่งในอเมริกาจะจัดการในแนวทางนี้เรียกว่า “โปรแกรมการศึกษาและวิจัยเพื่อเกษตรแบบยั่งยืน” หรือ (Sustainable Agricultural Rescarch and Education : SARE) ซึ่งโปรแกรมนี้ได้ดำเนินการไปทั่วทุกภูมิภาคของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นข้อมูลการตลาดจึงมีความจำเป็นในการเผยแพร่ไปยังเกษตรกรผู้ผลิตทั่วทุกภูมิภาค นั่นคือข้อมูลการตลาดจะนำมาซึ่งการจัดการการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การตลาดที่เกษตรกรมุ่งหวัง และผลกำไรตามมา นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรประเภทอาหารอีกด้วย
การจัดองค์กรการตลาด
การจัดองค์กรการตลาดเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการตลาด นั้นคือจะต้องเข้าใจถึงความสัมพันธ์การตลาดกับการเกษตรแบบยั่งยืนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในอนาคตซึ่งเกี่ยวข้องกับการตลาด , การผลิต และนโยบายสาธารณะ ระบบการผลิตสินค้าเกษตร และตัวสินค้าเกษตรเองเป็นวัตถุดับของอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา เมื่อประมาณ 100 ปี ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกานับเป็นสังคมเกษตรกรรม ดังนั้นทรัพยากรธรรมาชาติทั้งหมดจึงถูกใช้ไปในการผลิตอาหารและเครื่องนุ่งห่ม เพื่อผลิตอาหารเลี้ยงคนทั้งประเทศ และผลิตเส้นใยในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ต้นทุนการผลิตอาหารและเส้นใยในอุตสาหกรรมสิ่งทอมักมีความแตกต่างกันออกไปตามสภาพภูมิศาสตร์
การเกษตรของอเมริกัน เป็นลักษณะการค้า ,
การผลิตเฉพาะอย่าง การผลิตเป็นชีวิตประจำวัน การเกษตรนั้นมุ่งเน้นการผลิตอาหารเพื่อเลี้ยงผู้คนในประเทศมากกว่าการประกอบธุรกิจเพื่อมุ่งเน้นกำไร การผลิตแบบอุตสาหกรรมจึงเริ่มจากการนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานสัตว์ในภาคการผลิตทางการเกษตร ภาคการเกษตรของอเมริกาในปัจจุบันจึงทำการผลิตสินค้าเกษตรในลักษณะเดียวกับขบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม หรือการประกอบชิ้นส่วนของโรงงานในอุตสาหกรรมการผลิตการตลาดมวลรวมได้ถูกนำมาใช้เพื่อตอบสนองการผลิตและผลผลิตปริมาณมาก โรงงานแปรรูปผลิตผลการเกษตรจึงมีความจำเป็นที่จะปรับเปลี่ยนขบวนการผลิตให้สอดรับกับปริมาณผลผลิตทางการเกษตรจำนวนมาก และการขยายขนาดของการผลิตเพื่อก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาดเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ยกตัวอย่างโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ด ซึ่งถือเป็นต้นแบบมาตรฐานของขบวนการผลิตรถยนต์ของประเทศสหรัฐอเมริการ จากอดีตถึงปัจจุบันโรงงานการประกอบรถยนต์ฟอร์ดได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบ ขนาด สี และลักษณะพิเศษอื่น ๆ ตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของเวลา แม้เวลาเปลี่ยนไปและการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบอื่น ๆ เปลี่ยนไป แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ฟอร์ดยังคงไว้ซึ่งแนวคิดของการตลาดเพื่อมวลชน เนื่องจากฟอร์ดเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัทรถยนต์ฟอร์ดได้ทุ่มเทงบประมาณเพื่อการโฆษณาเป็นจำนวนเงินหลายล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา เพื่อดำรงค์ไว้ซึ่งปรัชญาของการตลาดแบบมวลรวมเพื่อคนทั้งประเทศ การเกษตรในปัจจุบันได้ทำการผลิตเปรียบเสมือนอุตสาหกรรมรถยนต์ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่การทำการเกษตรมักมุ่งเน้นการผลิตสินค้าพื้นฐาน เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง สุกร โค กระบือ เพื่อป้อนตลาดของผู้บริโภคทั้งประเทศ ภาคการเกษตรจึงเปรียบเสมือนแหล่งอาหารเพื่อผู้บริโภคและแหล่งวัตถุดิบของอุตสาหกรรมอื่น ๆ ภายในประเทศ
กลยุทธ์การจัดการการเกษตรและธุรกิจเกษตรจึงมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จของการตลาดเพื่อก่อให้เกิดการกระจายสินค้าเกษตรและอาหารสู่ผู้บริโภคทั้งประเทศ ในปี ค.ศ.1890 (ข้อมูลโดยกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา) สัดส่วนของประชากรที่ทำอาชีพการเกษตรและอาศัยในภาคการเกษตรมีน้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งประเทศที่น่าสนใจไปกว่านั้น อาชีพนอกภาคการเกษตรให้รายได้มากกว่าภาคการเกษตรถึง 1 เท่า ในขณะที่การคาดการณ์กันว่า ผู้บริโภคจ่ายค่าอาหารเป็นสัดส่วนถึง 11 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ในขณะที่เกษตรกรจะได้รับรายได้เพียงแค่ 22 เซ็นต์ต่อเงิน 1 ดอล์ล่าร์ ที่ผู้บริโภคจ่ายเป็นค่าอาหาร ครึ่งหนึ่งของต้นทุนการผลิตทางการเกษตรเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อปัจจัยการผลิต เกษตรกรจะได้รับแค่ 10 เซ็นต์เมื่อเทียบกับเงิน 1 ดอล์ล่าร์ ที่ผู้บริโภคจ่ายเป็นค่าอาหาร
โดยหลักการอุตสาหกรรมแล้ว การจัดการอุตสาหกรรมจัดเป็นหนทางประการหนึ่งในการนำมาใช้กับภาคการผลิตทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ในยุคอุตสาหกรรมการผลิตทางอุตสาหกรรมได้ถูกกระตุ้นโดยความต้องการของคนส่วนใหญ่นั่นคือผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการสินค้าจากภาคอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรมและนำไปสู่การใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้น การเกษตรก็เช่นกัน นั่นคือการขยายตัวทางการเกษตรก่อให้เกิดการใช้พลังงานมากยิ่งขึ้น การผลิตก็มากขึ้นสามารถตอบสนองผู้บริโภคได้มากขึ้นและราคาอาหารถูกลง นั่นคือการขยายขนาดการผลิตและการประหยัดต่อขนาดนั่นเอง สินค้าอาหารมีราคาถูกมากเพื่อเปรียบเทียบกับรายได้ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา และส่งผลให้สัดส่วนที่เกษตรกรได้รับก็น้อยลงตามไปด้วย แต่ถึงอย่างไรประเทศชาติและผู้บริโภคทั้งหมดก็ยังคงต้องการอาหารราคาถูกเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ ปัญหาที่เห็นได้ชัดเจนคือสัดส่วนที่เกษตรกรได้รับจากการผลิตทางการเกษตรลดลง ผลตอบแทนจากการทำการเกษตรน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเป็นเช่นนี้เกษตรกรหลายคนได้ออกจากภาคเกษตรและหันไปประกอบอาชีพอย่างอื่นแทน
ดังนั้นการทำการเกษตรจึงไม่ประสบผลสำเร็จมากนักในแง่ของกำไรจากการประกอบการแต่ในสภาพความเป็นจริง ภาคเกษตรยังคงเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการเติบโตของเศรษฐกิจ การใช้ทรัพยากรและทำลายสิ่งแวดล้อม และการคำนึงถึงสภาพทางสังคม ซึ่งทั้งหมดนั้นจะทำให้ผลการประกอบการลดลง
ทางเลือกการเกษตรแนวทางใหม่จึงจัดการเพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ และสภาพสังคม เกษตรกรจึงพิจารณาถึงความต้องการแนวใหม่ ในการประกอบอาชีพการเกษตรซึ่งเกี่ยวข้องและคำนึงถึงระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมเป็นประการสำคัญ
แนวทางการดำเนินธุรกิจ
ดร.โจ บาร์เกอร์ ได้อธิบายว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจประกอบด้วยหลักการใหญ่ ๆ 2 ส่วนคือ
1) การกำหนดขอบเขตของตลาด
2) การกำหนดมาตรฐานเพื่อมุ่งเน้นความสำเร็จโดยคำนึงถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในขอบเขตตลาดที่เรากำลังพิจารณา
ดร.โจ ได้อธิบายเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่างการเล่นเทนนิส นั่นคือผู้เล่นจะแลเห็นขอบเขตของสนามเทนนิสอย่างชัดเจน และพื้นที่นอกเขตสนามเทนนิส นั่นคือผู้เล่นจะต้องตีลูกบอลให้ข้ามตาข่ายและไปตกในพื้นที่อีกฝ่ายหนึ่ง
กฎเกณฑ์การประกอบธุรกิจจึงเป็นเรื่องดูเหมือนง่ายซึ่งคล้ายกับการอธิบายของ ดร.โจ โดยเปรียบเทียบการเล่นเทนนิส หรืออาจมองในแง่ความซับซ้อน เช่น รูปแบบโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามการกำหนดขอบเขตและทิศทางยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินการทรัพยากรธรรมชาติ เปรียบเสมือนปัจจัยภายนอกในขบวนการผลิตทางการเกษตร ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติมักแตกต่างกันออกไปตามสภาพภูมิศาสตร์
ความสำเร็จของการประกอบการธุรกิจมักจะวัดจากผลกำไรจากการประกอบการ และการเติบโตทางธุรกิจ ธุรกิจมักมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรระยะสั้นและการเติบโตในระยะยาว ทุก ๆ อย่างในองค์กรได้ถูกนำมาใช้อย่างคุ้มค่าเพื่อก่อให้เกิดผลกำไรและการเจริญเติบโต
แนวทางที่เป็นไปได้ในการทำกำไรดูเหมือนจะต้องลดต้นทุนการผลิต และการขยายส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจจะต้องพิจารณาถึงรสนิยมและความชื่นชอบของผู้บริโภคเป็นประการสำคัญ การมองหากลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ และส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่เพื่อการผลิตที่ประหยัดต่อขนาดซึ่งการผลิตขนาดใหญ่จะก่อให้เกิดต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำจึงก่อให้เกิดกำไรและการขยายตัวทางธุรกิจ
แนวปฏิบัติโดยมุ่งเน้นทางเศรษฐศาสตร์ ระบบนิเวศน์ ความต้องการของสังคมพื้นที่เกษตร ธุรกิจ ชุมชน และสังคม ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการทำการเกษตรแบบยั่งยืน ระบบนิเวศน์และความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรแบบยั่งยืน นอกจากนี้ระบบนิเวศน์ยังนับเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบด้านบวกต่อการผลิตทางการเกษตร ข้อจำกัดยังคงเป็นกฎหมาย และมนุษย์หรือผู้บริโภค
การพิจารณาการเกษตรแบบยั่งยืนต้องพิจารณาทั้งระบบหรือองค์รวม (holistic) จุดมุ่งหมายคือการเกษตรแบบยั่งยืนมากกว่าการมุ่งเน้นกำไรในระยะสั้น
การดำเนินธุรกิจจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ เศรษฐศาสตร์และระบบนิเวศน์ การทำการผลิตทางการเกษตรจะต้องสอดคล้องกับทรัพยากรธรรมชาติทีมีอยู่ในท้องถิ่นนั้น ๆ การเกษตรแบบยั่งยืนยังเน้นความเป็นตัวของตัวเองนั่นคือความพร้อมในตัวเองนั่นเอง การจัดการและการจ้างแรงงานจะต้องให้สอดคล้องกับความรู้ ความสามารถ ความปรารถนาหรือมุ่งหวังในการทำงานโดยใช้แรงงานที่มีความชำนาญ สอดคล้องกับทรัพยากรธรรมชาติ ตลาดของผู้บริโภคและขบวนการผลิต
แนวคิดการผลิตแบบยั่งยืนจะต้องอาศัยความชำนาญของแรงงานทั้งปริมาณและคุณภาพของแรงงาน ตลอดทั้งการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดรับกับที่ดินและทุนที่มีอยู่ การจัดการที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องสัมพันธ์กับปริมาณเงินลงทุนอย่างคุ้มค่าของแรงงานจ้าง การพิจารณาถึงสัดส่วนของแรงงานต่อพื้นที่การผลิตเป็นเอเคอร์ ดังนั้นการเกษตรแบบยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยการจัดการที่ดีและแรงงานที่มีคุณภาพซึ่งดูเหมือนว่าการเกษตรแบบยั่งยืนต้องการการดูแลเอาใจใส่ครอบครัวของเกษตรกรเป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากระบบการทำฟาร์มโดยทั่วไป
ขนาดของฟาร์มในการเกษตรยั่งยืนอาจจะลดลง นั่นคือขนาดเล็กลงภายใต้แนวคิดของการเกษตรแบบยั่งยืน อย่างไรก็ตามขนาดที่เล็กลงจะต้องมีความพร้อมในการแข่งขัน และการประกอบการตามความชำนาญเฉพาะด้าน โดยฟาร์มขนาดเล็กจะต้องแข่งขันกับขนาดใหญ่ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และแรงงานที่มีคุณภาพ ในทางปฏิบัติฟาร์มขนาดเล็กจะเน้นในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์ซึ่งถือว่ามีค่าสูงสุดในบรรดาทรัพยากรทั้งหมด นั่นคือการมุ่งเน้นการจัดการทรัพยากรมนุษย์มากกว่าทรัพยากรด้านอื่น ๆ โดยนำเอาความรู้ความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ออกมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดนั่นเอง ความชำนาญและทักษะในการผลิตสินค้าเกษตรมีความสำคัญในเชิงเศรษฐศาสตร์และระบบนิเวศน์ อย่างไรก็ตามความสามารถในการจัดการตลาดนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความสามารถและทักษะในการผลิต รูปแบบฟาร์มและการจัดการอาจถูกเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต การจ้างแรงงานในภาคการผลิตและการตลาดนับเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรแบบยั่งยืน ในอดีตที่ผ่านมาการเน้นการลดต้นทุนการผลิตโดยการลดปัจจัยการผลิตทางการเกษตร อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการผลิตคิดเป็นสัดส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่ายของรายจ่ายผู้บริโภคเท่านั้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายการตลาดคิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายผู้บริโภค นั่นคือความเป็นไปได้ในการทำกำไรโดยลดค่าใช้จ่ายในการตลาดลง แทนการลดค่าใช้จ่ายในการรับปัจจัยการผลิต อย่างไรก็ตามคุณภาพและลักษณะของสินค้ายังคงมีรูปลักษณ์และมาตรฐานดั้งเดิมตามความต้องการของการตลาด หัวใจสำคัญคือการทำฟาร์มที่ขนาดเล็กลง มีความชำนาญเฉพาะด้านและมุ่งเน้นการเกษตรแบบยั่งยืน
หลักการพื้นฐานของการตลาด
หลักการการตลาดแนวใหม่คือ การเน้นขอบเขตการตลาด การถ่ายทอดแนวความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติและความชำนาญสู่องค์ความรู้ คุณค่าทางเศรษฐศาสตร์ นับเป็นความมุ่งหวังของการจัดการการตลาดและความเข้าใจในพื้นฐานการตลาด
การตลาดโดยทั่วไปมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของสินค้าจากวัตถุดิบสู่สินค้าสำเร็จรูป เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางกายภาพ รวมกระทั่งการคัดมาตรฐานและการทำความสะอาดสินค้า นอกจากนี้การขนส่งยังมีความสำคัญต่อสินค้าเกษตรจากแหล่งผลิตจนกระทั่งถึงมือผู้บริโภคคนสุดท้ายในตลาด ในบางครั้งสินค้าเกษตรก็ยังมีการขนส่งจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่ง กาลเวลามีความสำคัญต่อสินค้าเกษตร เช่น เกษตรกรต้องเก็บเกี่ยวตรงเวลา และหลังจากนั้นสาเหตุเก็บในโกดังสินค้าได้เพื่อสามารถนำไปใช้ได้ตรงเวลาตามความต้องการของผู้บริโภคหรือโรงงานแปรรูป และมีสินค้าบริโภคตลอดทั้งปี บทบาทของการตลาดยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง เพื่อสนองตอบความต้องการของเขาได้โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารและเส้นใย
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้า และมูลค่าการตลาดโดยการเปลี่ยนรูปแบบสินค้า สถานที่ ระยะเวลาและลักษณะความเป็นเจ้าของโดยขบวนการของการตลาดทุก ๆ ขั้นตอนของกระบวนการตลาดก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มของสินค้า ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดต้นทุนทางการตลาด มูลค่าเพิ่มนำมาซึ่งกำไร จากขบวนการตลาด เช่น ความเป็นเจ้าของ การขนส่ง การเก็บรักษา และนายหน้า ซึ่งส่วนต่างระหว่างราคาแต่ละขั้นตอนก่อให้เกิดกำไรนั่นเอง หลักการตลาดดังกล่าวฟังดูเหมือนเป็นหลักการขั้นพื้นฐานโดยทั่วไป อย่างไรก็ตามหลักการง่าย ๆ ดังกล่าวนี้เป็นขบวนการเพิ่มคุณค่าของสินค้าเกษตรในแนวดิ่ง
การตลาดสินค้าเกษตรโดยทั่วไปกระทำกับสินค้าเกษตรโดยพื้นฐาน เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี หมู โค กระบือ ข้าวโพดโดยส่วนใหญ่มักนำมาใช้เป็นวัตถุดินในอาหารสัตว์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมโคขุน สินค้าเกษตรที่เกษตรกรทั่วไปผลิตได้มักมีลักษณะคล้ายกันหรือเหมือนกัน ดังนั้นเกษตรกรจะต้องประสบกับสภาวะของการแข่งขันโดยสมบูรณ์แบบ โดยมีผู้ซื้อและผู้ขายหลายคนเข้าออกในตลาดสินค้าเกษตรได้อย่างสะดวก ความแตกต่างของราคาระหว่าง 2 ตลาด สะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนของการขนส่ง ในขณะเดียวกันความแตกต่างของราคาของ 2 ฤดูกาลสะท้อนถึงต้นทุนของการเก็บรักษา
สินค้าเกษตรส่วนใหญ่มักมีการตัดสินใจการตลาดอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในเรื่องของระยะเวลา เนื่องจากสินค้าเกษตรอาศัยระยะเวลาในการผลิต เกษตรกรผู้ผลิตสามารถลดความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของสินค้าเกษตรที่ตัวเขาเองผลิตได้ โดยการขายในตลาดล่วงหน้าสินค้าเกษตร การซื้อขายกันในตลาดล่วงหน้ามักจะได้ราคาที่สูงกว่าราคาในปัจจุบัน การขายสินค้าเกษตรที่เกษตรกรผลิตได้โดยการรอ ช่วงจังหวะของเวลาที่สินค้าเกษตรมีราคาสูงเกษตรกรจึงนำออกขายในตลาด แต่ทั้งนี้ราคาที่ได้รับจะต้องคุ้มกับต้นทุนของการเก็บรักษาสินค้าในโกดัง หรือเกษตรกรสามารถขายผ่ายนายหน้าหรือผู้เกร็งกำไร ซึ่งทำการซื้อขายนั่นเอง เกษตรกรโดยส่วนใหญ่มักเป็นผู้เกร็งกำไรน้อย นั่นคือปล่อยในนักเกร็งกำไรมืออาชีพเข้ามาทำการซื้อขาย แทนที่จะกระทำด้วยตนเองโดยเกษตรกรพยายามขายให้คุ้มค่าต่อต้นทุนการเก็บรักษาในสภาวะของตลาดแข่งขันสมบูรณ์
การตลาดสินค้าเกษตรมักมีความแตกต่างกันออกไป ในขณะที่สินค้าเกษตรมีความคล้ายคลึงกันเป็นส่วนใหญ่ในตลาดสินค้าเกษตรบางประเภท มูลค่าสินค้ามีความแตกต่างออกไปตามสภาพและระยะทางของตลาด การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของสินค้าเพื่อให้เกิดความแตกต่างและเพิ่มช่องทางการตรลาดและมีโอกาสในการเพิ่มกำไรจากตัวสินค้า สินค้าเกษตรจากการผลิตแบบยั่งยืนย่อมมีราคาสูงกว่าสินค้าเกษตรแบบขบวนการผลิตโดยทั่วไป
ในบางครั้งผู้บริโภคคงไม่ค่อยเต็มใจในการจ่ายแพงกว่าราคาสินค้าเกษตรมีการแตกต่างกันออกไปตามมูลค่าสินค้าและต้นทุนการตลาด เช่น การเปลี่ยนแปลงจากวัตถุดิบเป็นสินค้าแปรรูป ขบวนการผลิตบางประเภท โรงงานฆ่าสัตว์ และแปรรูปเนื้อสัตว์ สืบเนื่องจากการแปรรูปแบบสินค้าทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เช่น การคัดแยกประเภทของเนื้อสัตว์แต่ละประเภท อย่างไรก็ตามขบวนการผลิตสามารถเปลี่ยนรูปแบบสินค้าเกษตรอย่างสิ้นเชิง เช่น การแปรรูปจากผลองุ่นมาเป็นไวน์ ร้านค้าปลีกหลายแห่งมักจะเก็บไวน์เพื่อจำหน่ายแก่ผู้ผลิตและทำกำไรจากการรจำหน่ายไวน์แก่ลูกค้า ขบวนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้าเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ขบวนการในการตลาด ผลไม้ก็สามารรถคัดแยกเป็นประเภทได้และราคาขายในแต่ละประเภทจะแตกต่างกันออกไปสินค้าเกษตรอาจเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากเดิม เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่น ในภูมิภาคแถบอากาศอบอุ่นการเพาะปลูกมะเขือเทศในเรือนกระจกมีต้นทุนการผลิตมะเขือเทศสูงกว่าการผลิตมะเขือเทศในแถบแคลิฟอร์เนียหรือการผลิตในแถบแมกซิโก รูปแบบของการผลิตเมื่อผลมะเขือเทศสุกงอมแล้วผู้ผลิตจะได้ทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้แทนที่จะทิ้งไปความสามารถในการจัดการการตลาดของผลผลิตเกษตรได้ท่วงทันเวลานับเป็นความสำคัญประการหนึ่งสถานที่และที่ตั้งของตลาดเป็นปัจจัยอีกประการหนึ่งที่ทำให้มูลค่าของสินค้ามีความแตกต่างกันออกไป
เกษตรกรที่อยู่ใกล้กับชุมชนสามารถได้เปรียบเกษตรกรที่อยู่ห่างไกลชุมชนในการจัดจำหน่าย และกระจายสินค้า ยกตัวอย่างการจัดจำหน่ายผัก ผลไม้สดจากแหล่งผลิตมายังชุมชน เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภคในเมืองใหญ่ ตลาดของเกษตรกรหรือที่เรียกว่า Famer s markets มักจะจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรแบบสดและใหม่เนื่องจากเป็นผลผลิตจากฟาร์ม แหล่งผลิตมักจะไม่อยู่ไกลชุมชนออกไปเพื่อสะดวกต่อการขนส่ง และเพื่อไม่ให้ระยะทางเป็นอุปสรรคต่อขบวนการตลาดอีกต่อไปการทำการตลาด หรือการจัดการการตลาดต้องคำนึงถึงรูปร่าง ระยะเวลา และสถานที่อย่างไรก็ตามคุณค่าขิงผลิตภัณฑ์ จะมีความสำคัญต่อการเกษตรแบบยั่งยืนในบางครั้งสินค้าเกษตรประเภทเดียวกันแต่มีความแตกต่างกันระหว่างกลุ่มผู้บริโภคทั้ง 2 กลุ่ม ผู้ผลิตสินค้าเกษตรสามารถตั้งราคาที่แตกต่างกันระหว่างตลาดทั้ง 2 กลุ่ม สินค้าเกษตรเฉพาะอย่างที่ผู้บริโภคต้องการ สามารถตั้งราคาสูงได้ และทำให้ชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดโดยเฉพาะนับเป็นความฝันของการจัดการการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จ
การตลาดที่ดี
การตลาดที่ดีตามอุดมคติประกอบด้วยความคาดหวังของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายตลาดที่ดีอาจจะไม่มีขนาดใหญ่ ผู้เขียนเปรียบเสมือนทางเดินเส้นแคบๆ บนหาดทราย ตลาดที่ดีและตลาดในฝันอาจแตกต่างกันไปจากตลาดโดยทั่ว ๆ ไป โดยการระบุอย่างชัดเจนถึงรูปร่าง เวลา สถานที่ และผู้ประกอบกิจการต่างๆ
ยกตัวอย่างเช่นตลาดผักสดและผลไม้ตามฤดูกาลในแต่ละท้องถิ่น ในเมืองเซ็นต์หลุย รัฐมิสซูรี่จะมีตลาดที่ดีเฉพาะกลุ่มเชื้อชาติ เป็นต้น โดยมีการจัดจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารตามลักษณะของเชื้อชาติ ยกตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคบางกลุ่มต้องการซิป หรือของว่างสีน้ำเงินซึ่งทำจากข้าวโพดสีน้ำเงินนั้นเอง หรือผู้บริโภคบางกลุ่มนิยมบริโภค ผัก และผลไม้สดเท่านั้น ราคาของสินค้าเฉพาะกลุ่มเหล่านี้มักจะสูงกว่าสินค้าโดยทั่วไปการตลาดที่ดีจึงเป็นการเพิ่มมูลค่าการผลผลิตทางการเกษตรโดยการตอบสนองในด้านรูปร่าง ระยะเวลา และการขนส่งที่ตรงเวลา แต่ในทางปฏิบัติแล้วการตลาดที่ดีมักจะพิจารณาจากความแตกต่างในด้านความรับผิดชอบและรสนิยมของผู้บริโภคเป็นหลักสำคัญการผลิตแบบอุตสาหกรรมก่อให้เกิดตลาดที่ดี ความหลากหลายของสินค้าเกิดจากความแตกต่างของความชอบและรสนิยมของผู้บริโภค ถ้าหากการกล่าวอ้างนี้เป็นจริง อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าก็คงทำการผลิตสินค้าที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นนั้นเอง การยอมรับการตอบสนองสินค้าที่ผลิต รูปแบบของสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค
ยกตัวอย่าง เช่น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ฟอร์ดทำการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขับขี่อุตสาหกรรมการเกษตรสามารถก่อให้เกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร ผู้ผลิตมักกำหนดราคาถูก และเข้าถึงผู้บริโภคโดยการโฆษณาและการผลิตสินค้าที่แตกต่างไปจากเดิมเพื่อก่อให้เกิดการตลาดในกลุ่มผู้บริโภคใหม่และช่องทางการตลาดใหม่ และการวางสินค้าในชั้นสินค้าใหม่เพื่อเกิดแรงจูงใจแก่ผู้บริโภค เช่น ในตลาดซุปเปอร์มาร์เก็ตของอเมริกาเนื้อวัวจะถูกแบ่งเป็นเกรดตามคุณภาพและตรายี่ห้อในการผลิต นอกจากนี้ราคาก็แตกต่างกันออกไปด้วยผักและผลไม้มีมากมายหลายยี่ห้อในตลาดสหรัฐอเมริกา ผักสด และผลไม่สด คงมียี่ห้อไม่มากนักประมาณ 1-2 ยี่ห้อ แต่สินค้าพวกอาหารกระปํองมักมีความหลากหลายในเรื่องราวของตราผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตามอาหารที่บรรจุภายในกระป๋องมักเป็นประเภทเดียวกัน
กลยุทธ์ทางการตลาดมักนำมาใช้ในการดึงดูดผู้บริโภค การกำเนิดของอุตสาหกรรมอาหารประเภทจานด่วน อาหารประเภทพร้อมรับประทน เนื้อไก่ มันฝรั่ง และผลิตภัณฑ์อาหารที่พร้อมในการบริโภคในกลุ่มผู้บริโภคทั้งประเทศเมื่อผลิตภัณฑ์ใดเป็นที่นิยมของตลาดนั้นคือ มีรสชาด สีสัน และบรรจุภัณฑ์เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค สินค้านี้ก็คงอยู่ในตลาดตลอดไป
ในขณะที่สินค้าใดไม่เป็นที่นิยมของผู้บริโภคสินค้านั้นมักจะออกไปจากตลาดในที่สุดการตลาดโดยทั่วไปผู้คนมักมีความสับสนกับตลาดที่ดี โดยทั่วไปสินค้าที่วางขายในตลาดมักเป็นสินค้าพื้นฐานโดยเฉพาะสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค
นค้าอาหารที่สะดวก รวดเร็ว ราคาถูกและสะอาดมักได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในตลาด เช่น เนื้อวัวพร้อมรับประทาน บ๊อคโคลี่ เป็นต้น การทำการตลาดและการผลิตแบบมวลรวม
บริษัทผู้ผลิตจะต้องมีความชำนาญเฉพาะ มีการลงทุนมากและงบประมาณในการโฆษณาอย่างมากมายในตลาดอาหารสำเร็จรูป และขยายการผลิต มักเป็นหน้าที่ของบริษัทผู้ผลิต รายได้จากการจัดจำหน่ายผลผลิตเกษตรกรมักตกถึงมือเกษตรกรเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับบริษัทผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป
ตลาดในอนาคต
แนวโน้มของการผลิตสินค้าเกษตรในอเมริการเป็นแบบการผลิตขนาดใหญ่ในปัจจุบันการผลิตทางการกษตรเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น และถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการภาคอุตสาหกรรมในระบบเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันการเกษตรนับเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
นักเศรษฐศาสตร์ที่มองถึงอนาคต คือ เควิน ทอปเลอร์ กล่าวในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงอำนาจ เขาได้ชี้แนะให้เห็นว่าการคาดการณ์หรือคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์หลายคนไม่ตรงประเด็น และไม่สอดคล้องกับโลกของความเป็นจริง เขาได้ชี้ให้เห็นว่าในโลกปัจจุบันการผลิตและการตลาดขนาดใหญ่จะมีแนวโน้มว่าจะหายไป แต่ตลาดขนาดเล็กผลิตสินค้าเฉพาะอย่างจะเข้ามาแทนที่ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มนั้นเองเควิน ทอปเลอร์กล่าวว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจ คือการสร้างความมั่งคั่งให้กับสังคม ปัจจัยการผลิตทั้งหลาย เช่น ที่ดิน แรงงาน ทุน ไม่มีความสำคัญมากไปกว่าปัจจัยทางด้านทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งนับเป็นทรัพยากรที่มีค่าสูงสุดในบรรดาทรัพยากรทั้งมวล เขากล่าวว่าเมื่อทรัพยากรมนุษย์มีคุณค่าการใช้ทรัพยากรทางด้านอื่นๆ เช่น ที่ดิน แรงงาน และทุนจะลดน้อยลงรวมทั้งการใช้วัตถุดิบในการผลิตจะลดน้อยลงอีกด้วย
ทอปเลอร์ กล่าวว่า เมื่อมองลึกลงไปจะพบว่าการผลิตจะต้องอิงถึงองค์ความรู้ของผู้ผลิตที่มีอยู่ขบวนการผลิตจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบด้านต่าง ๆ มากมายและเกิดขึ้นพร้อมกันในการผลิตด้วยความชำนาญเฉพาะอย่างเป็นหัวใจสำคัญในขบวนการผลิต นอกจากนี้การผลิตที่มีคุณภาพและคุณค่าจะนำมาสู่การผลิตแบบชำนาญการ ผู้บริโภคโดยธรรมชาติมีความประสงค์ต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคาถูกและมีคุณค่าสามารถตอบสนองต่อความต้องการของเขาได้
ปีเตอร์ ดักเตอร์ ผู้ซึ่งทำงานเป็นที่ปรึกษาธุรกิจของบริษัทเอกชนและผู้เขียนตำราทางธุรกิจเขาได้กล่าวในสมาคมทางธุรกิจถึงการดำเนินธุรกิจแบบใหม่เพื่อให้ประสมผลสำเร็จ ดักเกอร์ได้กล่าวไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญพื้นฐาน และยิ่งใหญ่มากไปกว่าการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมืองนั้นคือ การเปลี่ยนแปลงองค์ความรู้ในสังคม การให้ความรู้แก่แรงงานในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงแรงงานจากการทำงานอย่างหนักหน่วงโดยการใช้แรงงาน โดยหันมาใช้มันสมอง ความรู้ ความสามารถในการทำงาน
ดักเกอร์ได้อธิบายถึงความสำคัญพื้นฐาน และความแตกต่างระหว่างองค์ความรู้ในการทำงานและการประกอบอุตสาหกรรม กล่าวคือ การประกอบอุตสาหกรรมเป็นขบวนการทำงานของเครื่องจักรในขณะที่การทำงานเป็นขบวนการใช้พลังของมนุษย์โดยลักษณะทางชีวภาพ ดักเกอร์บอกว่าความสัมพันธ์และสำคัญของธุรกิจคือ การกำหนดขนาดที่เหมาะสมและถูกต้อง การเพิ่มขนาดของอุตสาหกรรมการผลิตสามารถทำได้โดยการเพิ่มจำนวนเครื่องจักรอุตสาหกรรมการเพิ่มกำลังการผลิตหมายถึง การเพิ่มปริมาณผลผลิตนั้นเอง แต่ไม่สามารถเพิ่มปริมาณคนงานได้นั้นคือ เขาพยามยามอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องจักรและกำลังคนหรือความแตกต่างทางกายภาพและชีวภาพนั้นเองดักเกอร์เปรียบเทียบระหว่างการทำงานของสัตว์ 2 ชนิด คือ หนู และช้าง การทำงานของหนูจะละเอียดและมีความคล่องตัวมากกว่าการทำงานของช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ มนุษย์จึงเรียนรู้การทำงานจากหนูถึงความคล่องตัวและความละเอียดในการทำงาน
ดักเกอร์ยังเสนอว่าในอนาคต ขนาดของธุรกิจอาจจะเล็กลงแต่มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นในการทำธุรกิจ การประกอบการ และความเป็นเจ้าของ รวมไปถึงการทำฟาร์มด้วย ธุรกิจขนาดเล็กมักได้เปรียบในเรื่องข่าวสารองค์กร และการสื่อสารที่ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ การประกอบกิจการขนาดใหญ่จะมีข้อดีในแง่ความพร้อมของทรัพยากรองค์กร
องค์ความรู้ในธุรกิจไม่สามารถซื้อหาได้ แต่เกิดจากการเรียนรู้ของตัวบุคคล การเรียนรู้จากประสบการณ์และการแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ ทำให้เกิดโอกาสในการเรียนรู้มากขึ้น องค์ความรู้ไม่ใช่วัตถุแต่เป็นนามธรรม ที่ไม่สามารถถ่ายโอนได้ และสามารถเรียนรู้ได้จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ซึ่งสมองมนุษย์แตกต่างจากซ๊อฟแวร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถบรรจุข้อมูลและคำสั่งดังที่เราต้องการได้ทันท่วงที องค์ความรู้ติดตัวมนุษย์ไปตลอดเวลาและสามารถพัฒนาไปได้ เพื่อก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ เฮนรี่ฟอร์ดผู้ก่อตั้วกิจการรถยนต์ฟอร์ดกล่าวว่า
เมื่อเขาต้องการว่าจ้างแรงงานเพื่อทำงานในบริษัทเขา เขาต้องจ้างคนทั้งคนไม่ใช่มองแค่การทำงานโดยใช้ 2 มือของคนงาน นั่นคือ เฮนรี่ฟอร์ดมองคนทั้งองค์รวม และพิจารณาถึงสภาพจิตใจของคนงานด้วย
คำพูดของเฮนรี่ฟอร์ดและแนวคิดของดักเกอร์สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเกษตรแบบยั่งยืน โดยการทำการเกษตรแบบยั่งยืนย่อมต้องการความชำนาญเฉพาะอย่าง ความรู้การจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตั้งอยู่บนฐานของการผลิต การตลาด และการกระจายสินค้า การกำหนดขนาดของฟาร์มจะต้องพิจารณาถึงทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นปัจจัยการผลิต และปริมาณแรงงานที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาองค์ประกอบทางด้านเศรษฐศาสตร์และมานุษยวิทยาอีกด้วย กฎเกณฑ์ของการเกษตรแบบยั่งยืนคือการพิจารณาการใช้ประโยชน์ทั้งจากทรัพยากรมนุษย์และทรัพยากรธรรมชาติ ตลาดสำหรับการเกษตรแบบยั่งยืน
ความมุ่งหมายของการเกษตรแบบยั่งยืน
1) การผลิตสินค้าในรูปแบบที่ผู้บริโภคต้องการหรือการฉีกแนวรูปแบบผลิตภัณฑ์ โดยการขายในราคาที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์โดยทั่วไป
2) การกำหนดราคาขายของผลิตสามารถสร้างกำไรได้
3) องค์กรขนาดเล็กแต่ผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ โดยการเน้นรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไปจากเดิมโดยบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่าง
การบรรจุหีบห่อที่แตกต่างแม้นจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันก็ตาม การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจะก่อให้เกิดความชำนาญในการผลิตและเผชิญกับสภาพการแข่งขันในตลาดที่น้อยกว่าตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์โดยทั่วไปการจัดจำหน่ายผลผลิตที่แตกต่างในกลุ่มลูกค้าเฉพาะจะทำให้เกิดภาวการณ์แข่งขันที่น้อยกว่าสินค้าโดยทั่วไป
แนวคิดการทำการตลาดโดยทั่วไป คือ “ลูกค้าถูกต้องเสมอ” ระบบเศรษฐกิจและสภาพเศรษฐกิจเป็นปัจจัยในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ผู้ผลิตจำเป็นต้องผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค การผลิตสินค้าเกษตรแบบยั่งยืนจะต้องสอดคล้องกับระบบนิเวศน์ ระบบเศรษฐกิจและสังคม การผลิตเพื่อความต้องการของผู้บริโภคจะนำซึ่งกำไรของผู้ประกอบการ บทบาทของการตลาดสินค้าเกษตรแบบยั่งยืนคือการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดกำไร การพัฒนาตลาดผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ ๆ นอกจากนี้ยังสอดรับกับระบบนิเวศน์ ทรัพยากรที่มีอยู่ การผลิต การจัดการ การตลาดและกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ผู้ผลิตต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย การเกษตรแบบยั่งยืนยังรวมไปถึงการพิจารณามนุษย์วิทยา ขนาดของธุรกิจจำเป็นต้องพิจารณาถึงทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์
แนวโน้มของการเกษตรแบบยั่งยืนนำไปสู่ขนาดฟาร์มที่เล็กลง ความหลากหลายในการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และการผลิตตามความชำนาญก่อให้เกิดความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การผลิตโดยพิจารณาถึงการอนุรักษณ์ทรัพยากรธรรมชาตินับเป็นหัวใจสำคัญขอบการเกษตรแบบยั่งยืน ตลาดเฉพาะของผู้บริโภคนับเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรแบบยั่งยืน
REFEREBCESAllen, P., D. Van Dusen, J.Lundy, and S.Gliessman.1991.IntegratingSocial, environmental, and economic issues in sustainable agriculture, American Journal of Alternative Agriculture, 6(1):34-19 Barker, Joel,1993.Paradigms, The Business of Discovering the Future,Harper Collins Publisher, New York, NY. DeLind, Laura. 1994 Organic farming and the social context: A challenge for us all, American Journal of Alternative Agriculture, 9(4):146-147. Dobbs, T.L.,M.G.Leddy, and J.D.Smolik. 1988. Factors influencing the Economic potential for alternative farming systems: case analysis of South Dakota, American Journal of Alternative Agriculture 3 (1):26-32. Dobbs, T.and J.Cole. 1992. Potential effects on rural economies of Conversion to sustainable farming systems, American Journal of Alternative Agriculture, 7(1&2):70-80. Drucker, Peter.1989. The New Realities. Harper and Row Publishers, Inc. New York, New York.Drucker, Peter. 1989. The New Realities. Harper and Row Publishers, Inc. New York, New York. Drucker, Peter.1989. Post Capitalist Society. Harper Business, HarperCollins, Publishers, Inc. New York, New York. Dunham, Denis. 1994. “Food cost revies, 1993,” Economic Research Service, U.S. Department of Agriculture, Agricultural EconomicsReport No.696. Ikerd, John E., Sandra J. Monson, and Donald L. Van Dyne.1992. “Financial incentives needed to encourage adoption of sustainable agriculture,”Special project report, Department of Agricultural Economics, University of Missouri, Columbia, MO. Ikerd, J.1994. “Assessing the health of agroecosystems from a socioeconomic perspective,” paper presented at lst InternationalSymposium on Ecosystem Health and Medicine, Ottawa, Ontario,Canada, June 19-33, 1994. Knutson, Ronald D., C. Robert Taylor, John B. Penson, and Edward G.Smith. 1990. “Economic impacts of reduced chemical use,”Knutson and Associates, College Station TX. 1990. Lockeretz, W. 1988. Open questions in sustainable agriculture. American Journal of Alternative Agriculture. 3:174-181. Naisbitt, John and Patricia Aburdene. 1990. Megatrends 2000, Avon Books, Hearst Corporation, New York, New York. Pimentel, David, Lori McLaughlin, Andrew Zeep, Benjamin Lakitan,Kraus, Peter Kleinman, Fabius Vancini, V.John Roach, Ellen Graap, William W.Keeton, and Gape Selig. 1991. Handbook on Pest Management in Agriculture, Vol.I,D., Pimentel, Ed., Cornell University,Ithaca, NY. Reich, Robert, B. 1992. The Work of Nations, Vintage Books RandomHouse, Publishers, New. York, New York. Repetto, Robert and Paul Faeth. 1990. The Economics of SustainableAgriculture, World Resources Institute, Washington, DC. Smit, B. and J. Smithers. 1993. Sustainable agriculture: interpretations,Analyses and prospects.Canadian Journal of Regional Science/Revue. 16(3):499-524. Toffler, Alvin. 1990. Power Shifts, Bantam Books, New York, NY. U.S. Department of Commerxe, Bureau of the Census, Issued June,1989. 1987 Census of Agriculture, AC87-A-25, Volume 1 Geographic Area Series, Part 25 Missouri State and County Data. Worstell, J.V.1995. “Southern futures: opportunities for sustainableAgricultural systems, “Special Report, Delta Land and Community,Inc. Almyra, Ar. * John lkerd is Extension Professor of Agricultural Economics, University of Missouri, Columbia. Paper presented at 87th Annual Meeting of American Society of Agronomy, St. Louis, Mo. Oct.29-Nov. 3.1995.
web.missouri.edu/~ikerdj/papers/Thai%20Paper.doc -
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved. ติดประกาศ: 2010-04-23 (1649 ครั้ง) [ ย้อนกลับ ] |
|
|
|
|
|