ชาวนาหลายครอบครัวในพื้นที่ต.พลกรัง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่กำลังประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำไม่สามารถทำนาปรังได้ จึงจำเป็นต้องหาอาชีพใหม่แหย่ไข่มดแดงเพื่อสร้างรายได้เสริมจุนเจือครอบครัวช่วงหน้าแล้ง

นายมั่น แก้ววัน  อายุ 42 ปี เกษตรกรบ้านพลกรัง หมู่ 2 ต.พลกรัง จ.นครราชสีมา บอกว่า ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นต้องยึดอาชีพดังกล่าวชาวบ้านที่นี้ก็พากันออกตะเวนแหย่ไข่มดแดงในพื้นที่ ต.พลกรังและใกล้เคียงเพื่อหารายได้ประทังชีวิตครอบครัวในช่วงหน้าแล้ง

สำหรับอุปกรณ์แหย่ไข่มดแดงจะใช้ไม้ไผ่ลำยาวประมาณ 5 เมตร ผูกหวดหุงข้าวเหนียว ไว้ที่ปลายไม้ และถังใส่น้ำ  ขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกตระเวนแหย่ไข่มดในเขต ต.พลกรังและตำบลใกล้เคียงเพื่อนำมาขายเป็นรายได้เสริม

หลังจากที่ต้องรับสภาพความแห้งแล้งที่ไม่มีน้ำเพียงพอที่จะทำนาปรังได้ และในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มดแดงกำลังออกไข่ ทำให้สามารถออกหาแหย่ไข่มดแดงมาขายให้กับลูกค้าที่มารอซื้อถึงบ้านวันละ 3 – 5 กิโลกรัมต่อวัน

เนื่องจากราคาจะต่ำกว่าท้องตลาดอย่างมาก  โดยนายมั่นจะขายไข่มดแดงในกิโลกรัมละ 150 บาท  ขณะที่ตามตลาดทั่วไปราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 – 300 บาท สร้างรายได้เสริมให้กับนายมั่นฯ วันละกว่า  350 – 500  บาทต่อวันเลยทีเดียว

อาชีพแหย่ไข่มดแดงขายจึงเป็นอาชีพที่สามารถกู้วิกฤติ   และพลิกสถานการณ์ให้กับชาวอีสานมาโดยตลอด  ผลผลิตที่ไม่ต้องซื้อหาและลงทุนมากนัก เพียงแต่ลงทุนออกแรงและความอดทนเท่านั้น ก็มีเงินหมุนเวียนในครอบครัวได้


ที่มา  :  บางกอกโพสต์