-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 370 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

หว้า





                   หว้า

      ลักษณะทางธรรมชาติ

    * เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่อายุยืนนานนับร้อยปี  กิ่งก้านสาขามาก  ใบมาก  ไม่ผลัดใบ 
ปลูกได้ทุกพื้นที่ในสภาพดินทุกชนิด ทนแล้งได้ดี แต่จะเจริญเติบโตดีตามพื้นที่ชายน้ำหรือที่ลุ่ม
    * ช่วงพักต้น (หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต) ต้องการความแล้งแต่ช่วงออกดอกติดผลต้องการน้ำสม่ำ
เสมอ  ช่วงออกดอกถ้าขาดน้ำดอกจะร่วง  และช่วงติดผลถ้าขาดน้ำผลจะแคระแกร็น
    * ออกดอกติดผลที่ซอกใบปลายกิ่ง ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ผลแก่เก็บเกี่ยวได้ช่วงเดือน 
มี.ค.- เม.ย.
                
    * ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศผสมในตัวเองหรือต่างดอกต่างต้นได้
                

      สายพันธุ์นิยม
               
      หว้าหิน :
  ผลเล็ก ดอกที่ออกช่วงแรกเป็นสีขาว เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ออก

ดอกพร้อมกันทั้งต้นสวยงามมาก ผลเป็นพวงใหญ่ 15-20 ผล  ผลแก่สีเขียว
 อ่อนถึงขาว  รส
ชาติฝาดกว่าหว้านา   
              
      หว้านา :   ผลใหญ่เท่าหัวแม่มือ ผลแก่สีม่วงเข้มถึงดำ รสฝาดน้อยกว่าหว้าหิน ผลแก่

เก็บเกี่ยวได้ช่วงเดือน เม.ย.
                

      การขยายพันธุ์
               
      เพาะเมล็ด (ไม่กลายพันธุ์).   ตอน.   ปักชำ.   ทาบกิ่ง.   เสียบยอด.
    
                                
      เตรียมดินและอินทรีย์วัตถุ  
               
    - ใส่ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ/นกกระทา....แห้งเก่าข้ามปี)ปีละ 2 ครั้ง
  
  - ให้ยิบซั่มธรรมชาติ  ปีละ 2 ครั้ง               
    - ให้กระดูกป่น  ปีละ 1 ครั้ง  
               
    - คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆเต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
    - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง               
      หมายเหตุ :
               
    - การฝังซากสัตว์ เช่น หอยเชอรี่  ปลาสด  เป็นชิ้นเท่าลูกมะนาวหรือบดละเอียด ที่ชายเขต
ทรงพุ่ม 4-5 หลุม/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม. ฝังปีเว้นปี เพื่อให้ต้นมีสารอาหารกินตลอด 24 ชม. ต่อ
เนื่องหลายๆปีจะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์สูงพร้อมต่อการบำรุงทุกขั้นตอน  
               
    - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ (ทางใบ-ทางราก) บ่อยเกินไปจะทำให้ต้นหยุดการเจริญเติบโต ไม่แตก
ใบอ่อน  ผลหยุดขยายขนาดแล้วกลายเป็นผลแก่และการให้ทางใบอาจเป็นแหล่งอาศัยและแพร่
ระบาดของเชื้อราได้  
               
    - ให้กลูโคสเฉพาะช่วงสำคัญ เช่น เร่งใบอ่อนเป็นใบแก่  สะสมอาหาร  บำรุงผลกลาง ช่วง
ละ 1-2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 20-30 วัน......ถ้าให้บ่อยเกินไปจะทำให้ต้นเกิดอาการนิ่ง ไม่ตอบ
สนองต่อสารอาหารหรือฮอร์โมนใดๆทั้งสิ้น
               
    - ฮอร์โมนธรรมชาติและฮอร์โมนวิทยาศาสตร์จะให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยก็ต่อเมื่อ ต้นมีสภาพ
ความสมบูรณ์สูง
                

      เตรียมต้น 
               
      ตัดแต่งกิ่ง :
               
      หว้าอายุต้น 5 ปีขึ้นไปควรตัดแต่งกิ่ง 2 ครั้งๆแรกตัดแต่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จ 
ตัดแต่งครั้งที่  2  หลังสิ้นฤดูฝน.....การตัดแต่งครั้งแรกควรตัดออก 20-25 เปอร์เซ็นต์ของ
จำนวนรอบทรงพุ่ม  ส่วนกิ่งในทรงพุ่มหรือกิ่งที่ไม่เหมาะสมต่อการออกดอก ได้แก่ กิ่งกระโดง  กิ่ง
ในทรงพุ่ม  กิ่งคดงอ  กิ่งชี้ลง  กิ่งไขว้  กิ่งหางหนู  กิ่งเป็นโรค  กิ่งมุมแคบ  และกิ่งแห้ง
ตาย ให้ตัดออกทั้งหมด.....หลังจากตัดแต่งกิ่งครั้งแรกแล้ว  ระหว่างรอจนกว่าจะถึงปลายฤดูฝนจะ
มีกิ่งแตกใหม่ออกมาอีกเป็นระยะๆทั่วทรงพุ่ม  ให้เก็บกิ่งด้านนอกทรงพุ่มไว้ก่อนเพื่อใช้เป็นใบ
สังเคราะห์อาหาร ส่วนกิ่งในทรงพุ่มให้หมั่นตัดออกตั้งแต่ยังเป็นยอดอ่อนเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง  ไม่เป็น
แหล่งสะสมโรคและแมลง.....การตัดแต่งกิ่งครั้งที่ 2 ให้พิจารณาตัดแต่งกิ่งที่ชายพุ่มออกบางส่วน
ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนกิ่งทั่วทรงพุ่ม 
                
      หว้าจะออกดอกจากกิ่งย่อยและกิ่งแขนงซึ่งเกิดจากกิ่งประธานที่ทำมุมมากกว่า 45 องศากับ
ลำต้นเสมอ.....การตัดยอดกิ่งประธาน (ผ่ากบาล) ณ ความสูงต้นตามต้องการ  นอกจากช่วยทำ
ให้แสงแดดผ่านจากยอดเข้าสู่ภายในทรงพุ่มได้อย่างทั่วถึงแล้ว แสงแดดที่ร้อนยังช่วยกำจัดเชื้อราได้
เป็นอย่างดี    เพื่อควบควบคุมขนาดความสูงทรงพุ่มอีกด้วย  ลักษณะทรงพุ่มที่ดีควรมีใบด้านนอก
ทึบแต่ภายในรงพุ่มต้องโปร่ง
                
      ตัดแต่งราก :             
               
    - ระยะที่ต้นอายุยังน้อยไม่ควรตัดแต่งราก  แต่ถ้าต้องการสร้างรากใหม่ให้มีประสิทธิภาพใน
การ
หาอาหารดียิ่งขึ้นใช้วิธีล่อรากด้วยการพูนโคนต้นด้วยดิน 3 ส่วนกับอินทรีย์วัตถุ 1 ส่วน
    
- ต้นอายุหลายปี  ระบบรากเก่าและแก่มาก  ให้พิจารณาตัดแต่งรากส่วนปลายออก 1 ใน
4 ด้วย
การพรวนดินรอบทรงพุ่มลึก 10-15 ซม. หลังจากให้ฮอร์โมนบำรุงรากไปแล้วต้นจะแตกราก
ใหม่จำนวน
มากขึ้นและมีประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารได้ดีกว่าเดิม  


               
ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อหว้า                

    1.เรียกใบอ่อน
                
      ทางใบ :
                
    - ให้น้ำ 100 ล.+ 25-5-5(200 กรัม)หรือ 46-0-0(200 กรัม)สูตรใดสูตรหนึ่ง +
จิ๊บเบอเรลลิน 10 กรัม + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.1 ครั้งต่อการเรียกใบอ่อน 1 ชุด ฉีดพ่นพอ
เปียกใบ
                
    - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
                
      ทางราก :
                
    - ให้น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7(½-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน  
                
    - ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน
                
      หมายเหตุ :
                
    - ลงมือปฏิบัติทันทีหลังตัดแต่งกิ่งและตัดแต่งรากเสร็จ
                
    - หลังจากให้ทางใบไปแล้ว 5-7 วันถ้าต้นใดแตกใบอ่อนดีน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ให้ฉีดพ่น
ซ้ำรอบ 2 ด้วยอัตราและวิธีการเดิม
                
    - หว้าต้องการใบอ่อน 2 ชุด  ถ้าต้นสมบูรณ์ดี มีการเตรียมดินและปรับปรุงบำรุงดินสม่ำเสมอ
ต่อเนื่องมาหลายๆปีแล้ว  หลังจากใบอ่อนชุดแรกเพสลาดแล้วให้เรียกใบอ่อนชุด 2 ต่อได้เลย  ใบ
ชุด  2 นี้อาจจะออกไม่พร้อมกันทั้งต้นเหมือนชุดแรกแต่ก็จะออกห่างกันไม่เกิน 7-10 วัน และหลัง
จากใบอ่อนชุด 2 เพสลาดก็ให้เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามปกติ
                
    - นิสัยหว้ามักออกดอกหลังจากกระทบหนาวได้ระยะหนึ่ง  ดังนั้นจึงควรตัดแต่งกิ่ง-เรียกใบ
อ่อนช่วงต้นหน้าฝนแล้วเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามลำดับ จะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์เต็มที่ดีกว่า
การตัดแต่งกิ่งในช่วงอื่น หมายความว่า หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วยังไม่ต้องตัดแต่งกิ่งแต่ให้บำรุง
ตามปกติต่อไปก่อน  จนกระทั่งเข้าสู่หน้าฝนจึงลงมือตัดแต่งกิ่ง
       

    2.เร่งใบอ่อนเป็นใบแก่
                
      ทางใบ :
                
    - ให้น้ำ 100 + 0-21-74(200 กรัม)หรือ 0-39-39(200 กรัม) สูตรใดสูตรหนึ่ง
+ ธาตุรอง/ธาตุ
เสริม 100 กรัม + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. 1-2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-
7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ
                
    - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
                
      ทางราก :
                
    - ให้น้ำตามปกติ  ทุก 2-3 วัน
                
      หมายเหตุ :
                
    - ลงมือปฏิบัติเมื่อใบเริ่มแผ่กางรับแสงแดดได้
                
    - การเร่งใบอ่อนให้เป็นใบแก่วัตถุประสงค์เพื่อเร่งระยะเวลาสู่การพัฒนาขั้นต่อไปให้เร็วขึ้นหรือ
เพื่อให้รอดพ้นจากการทำลายของแมลงปากกัดปากดูดที่ชอบกัดกินใบอ่อนพืช
    - ต้นที่สะสมความสมบูรณ์เต็มที่มานานหลายปีติดต่อกัน หลังจากใบอ่อนเริ่มแผ่กางแล้วอาจจะ
ข้ามขั้นตอนการบำรุงไปสู่ขั้นตอนเปิดตาดอกได้เลย ทั้งนี้ฟอสฟอรัส.กับโปแตสเซียม.นอกจากช่วยเร่ง
ใบอ่อนเป็นใบแก่ได้แล้วยังช่วยเปิดตาดอกได้อีกด้วย
         

    3.สะสมอาหารเพื่อการออกดอก    
               
      ทางใบ :
               
    - ให้น้ำ 100 ล.+ 0-42-56(200 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ แคล
เซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ทุก 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ ติดต่อกัน 1-2 เดือน จะช่วยให้ต้นสมบูรณ์เต็มที่
  
  - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน               
      ทางราก :
               
    - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24 หรือ 9-26-26 (1-2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน
    - ให้น้ำปกติทุก 2-3 วัน               
      หมายเหตุ :
                
    - เริ่มปฏิบัติหลังจากใบอ่อนชุดสุดท้ายเพสลาด
               
    - ปริมาณ 8-24-24 หรือ 9-26-26 ใส่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณการติดผลในรุ่นที่
ผ่านมา ถ้ารุ่นที่ผ่านมาติดผลดกมาก ผลผลิตมีคุณภาพดีมาก ให้ใส่ในปริมาณที่มากขึ้น แต่ถ้ารุ่นที่
ผ่านมาติดผลดกน้อยหรือไม่ติดผลเลย  ให้ใส่ในปริมาณปานกลาง
    
- การเพิ่มปริมาณปุ๋ยให้มากขึ้น  หมายถึง  การให้อัตราเดิมแต่ระยะเวลาให้ถี่ขึ้น  เช่น 
จากเคยให้
 15 วัน/ครั้งก็ให้เปลี่ยนเป็น 10 วัน/ครั้ง             

    4.เปิดตาดอก   
               
      ทางใบ :
                
    - ให้
น้ำ 100 ล.+ ฮอร์โมนไข่ 100 ซีซี.+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สาหร่าย
ทะเล 50 กรัม + สารสกัดสมุนไพร 250 กรัม
               
      ทางราก :
               
    - ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้นเหมือนช่วงปรับ ซี/เอ็น เรโช
               
    - ใส่ปุ๋ยทางรากสูตร 8-24-24 หรือ 9-26-26(1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
    - ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน               
      หมายเหตุ :
               
    - เริ่มปฏิบัติเมื่อต้นมีอาการอั้นตาดอกดีทั่วต้นและสภาพอากาศพร้อม
         
    

    5.บำรุงดอก   
               
      ทางใบ :
               
    - ให้น้ำ 100 ล.+ 10-45-10(200 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ เอ็น
เอเอ.100 ซีซี.
+ ฮอร์โมนไข่ 25 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. 1-2 รอบ  ห่างกัน
รอบละ 5-7 วัน  ฉีดพ่นพอเปียกใบ  ระวังอย่าให้โชกจนลงถึงพื้น
               
    - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน  
               
      ทางราก :
               
    - ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น
               
    - ใส่ 8-24-24 หรือ 9-26-26(1/2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
    - ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน               
      หมายเหตุ :
               
    - ช่วงดอกตั้งแต่เริ่มแทงออกมาให้เห็นหรือระยะดอกตูมบำรุงด้วยฮอร์โมน เอ็นเอเอ. 1-2
รอบ จะช่วยบำรุงเกสรทั้งตัวผู้และตัวเมียให้สมบูรณ์พร้อมรับผสม แต่ต้องใช้ด้วยระมัดระวังเพราะถ้าให้
เข้มข้นเกินไปจะเกิดความเสียหายต่อดอกและถ้าให้อ่อนเกินไปก็จะไม่ได้ผล...เพื่อความมั่นใจใน
เปอร์เซ็นต์หรือประสิทธิภาพของฮอร์โมน เอ็นเอเอ. แนะนำให้ใช้ฮอร์โมน เอ็นเอเอ.วิทยาศาสตร์
แทนฮอร์โมน เอ็นเอเอ.ทำเองซึ่งจะได้ผลดีกว่าเพราะเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นแน่นอนกว่า
    - ช่วงดอกเริ่มแทงออกมาใหม่ๆให้แคลเซียม โบรอน. 1 รอบ จะช่วยให้ดอกสมบูรณ์ผสม
ติดดี
               
    - ฉีดพ่นสารอาหารเพื่อบำรุงดอกด้วยเครื่องมือฉีดพ่นที่มีแรงลมพ่นเบาที่สุดตามความเหมาะสม
เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อส่วนต่างๆของดอก  ฉีดพ่นที่ช่อดอกโดยตรงพอเปียกหรือฉีดพ่นให้ทั่ง
ทรงพุ่มพอเปียกใบก็ได้
               
    - บำรุงดอกช่วงฝนชุกให้เน้น “สังกะสี และ แคลเซียม โบรอน”  โดยให้เมื่อดอกออกมาแล้ว
หรือให้แบบสะสมล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอก  ให้เดี่ยวๆหรือผสมรวมไปกับธาตุอาหารอื่นๆก็ได้
    - ช่วงดอกตูมควรฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรให้บ่อยขึ้น เพื่อป้องกันโรคแมลงจนถึงช่วงดอกบาน
  
  - ช่วงดอกบานควรงดการฉีดพ่นทางใบโดยเฉาะช่วงกลางวัน (08.00-12.00 น.)
เพราะอาจทำให้เกสรเปียกจนผสมไม่ติดได้  หากจำเป็นต้องฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรให้ฉีดพ่นช่วง
หลังค่ำ
               
    - ระยะดอกบานถ้าตรงกับช่วงฝนชุกเกสรจะเปียกชื้นทำให้ผสมไม่ติด กรณีนี้แก้ไขด้วยการกะ
ระยะเวลาเปิดตาดอกให้ดอกออกมาไม่ตรงกับช่วงฝนชุกเท่านั้น แต่ถ้าดอกออกมาตรงกับช่วงแล้ง
อากาศร้อนมากเกสรจะฝ่อทำให้ผสมไม่ติดเช่นกัน แก้ไขโดยการสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและที่
พื้นดินในทั้งในแปลงปลูกและรอบๆแปลงปลูก....มาตรการบำรุงต้นให้สมบูรณ์อยู่เสมอตั้งแต่ก่อนเปิด
ตาดอกจะช่วยลดความสูญเสียได้เป็นอย่างมาก 
               
    - การไม่ใช้สารเคมีเลยติดต่อกันเป็นเวลานานๆจนมีผึ้งหรือมีแมลงธรรมชาติอื่นๆเข้ามาจำนวน
มาก  แมลงเหล่านี้จะช่วยผสมเกสรส่งผลให้ติดผลดกขึ้น 
               
    - การบำรุงตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอกจนกระทั่งมีดอกออกมาควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ดอก
สมบูรณ์ดีขึ้น  
       

    6.บำรุงผลเล็ก
               
      ทางใบ : 
               
    - ให้น้ำ 100 ล.+ 15-45-15(200)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ แคลเซียม
โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ทุก 7-10 วัน  ฉีดพ่นพอเปียกใบ
 
   - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน               
      ทางราก :
               
    - นำอินทรีย์วัตถุกลับเข้าคลุมโคนต้นให้เหมือนเดิม  
               
    - ใส่ยิบซั่มธรรมชาติ 10 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการใส่เมื่อช่วงเตรียมดิน
 
   - ให้น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7(1/2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม -5 ม./ครั้ง/เดือน          
    - ให้น้ำปกติทุก 2-3 วัน
               
      หมายเหตุ :               
        
    - เริ่มปฏิบัติหลังจากกลีบดอกร่วง  หรือขนาดผลเท่าเมล็ดถั่วเขียว
      
    - เทคนิคการให้ปุ๋ยทางใบด้วยสูตร 15-45-15 ซึ่งเป็นสูตรเดียวกับบำรุงดอกนั้นวัตถุประสงค์
เพื่อให้ P.สร้างเมล็ดก่อนในช่วงแรก ซึ่งเมล็ดนี้จะเป็นผู้สร้างเนื้อต่อไปเมื่อผลโตขึ้น 
         

    7.บำรุงผลกลาง    
               
      ทางใบ :
                
    - ให้น้ำ 100 ล. + 21-7-14 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. +
ไคโตซาน 100 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ทุก 7-
10 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ
    - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน               
      ทางราก :
               
    - ให้น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง + 21-7-14(1/2 กก)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./ครั้ง/เดือน 
 
   - ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน               
      หมายเหตุ :
               
    - เริ่มลงมือบำรุงเมื่อเมล็ดเริ่มเข้าไคล  
                
    
- การบำรุงระยะผลขนาดกลางต้องให้น้ำสม่ำเสมอแต่ต้องไม่ขังค้าง  ถ้าได้รับน้ำน้อยนอกจาก
จะทำให้ผลไม่โต  หากมีฝนตกหนักลงมากระทันหันก็อาจจะทำให้ผลแตกผลร่วงได้
    - ถ้าติดผลดกมากควรให้ฮอร์โมนน้ำดำ กับ แคลเซียม โบรอน 1-2 รอบตลอดช่วงผลขนาด
กลางจะช่วยให้ต้นไม่โทรมเนื่องจากแบกภาระเลี้ยงผลจำนวนมากบนต้น
                      
    8.บำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว   
               
      ทางใบ :
               
    - ให้น้ำ 100 ล.+ 0-0-50(200 กรัม) หรือ 0-0-50(200 กรัม)สูตรใดสูตรหนึ่ง
+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.(เน้น กำมะถัน)+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.หรือ น้ำ 100
ล.+ มูลค้างคาวสกัด 100 ซีซี.+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วันก่อนเก็บเกี่ยวฉีดพ่นพอเปียกใบ
               
    - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
               
      ทางราก :
               
    - เปิดหรือไม่เปิดหน้าดินโคนต้น  และนำอินทรียวัตถุออกหรือไม่ต้องนำออกก็ได้
    - ให้ 13-13-21 หรือ 8-24-24(1-2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
      หมายเหตุ :               
    - เริ่มปฏิบัติก่อนเก็บเกี่ยว 10-20 วัน
               
    - การบำรุงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวโดยให้ทางรากด้วย 13-13-21 จะทำให้ต้นโทรม  หลัง
เก็บเกี่ยวผลสุดท้ายไปจากต้นแล้วต้องเร่งบำรุงเพื่อฟื้นฟูสภาพต้นเรียกความสมบูรณ์กลับคืนมาทันที
 
   - การให้ 8-24-24 เหมาะสำหรับต้นที่มีผลหลายรุ่นในต้นเดียวกันซึ่งนอกจากหลังจากเก็บ
เกี่ยวผลผลิตจนหมดต้นแล้วต้นไม่โทรม  ช่วยบำรุงผลรุ่นหลังต่อได้อีกด้วย  และทำให้ต้นมีความ
สมบูรณ์พร้อมสำหรับให้ผลผลิตรุ่นปีต่อไปอีกด้วย    
 

 






                 ************************









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2009-07-16 (2615 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©